
แดนนี ฟิงเกอรอท นักประพันธ์และนักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน กล่าวว่า ฐานคติหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ "ความกลัว" ซึ่งถูกกล่าวเป็นนัยให้เห็นตลอดเรื่อง บทบาทสำคัญของความกลัวในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเป็นตัวแปลสำคัญที่ทำให้ตัวละครบรูซ เวย์น กลายเป็นวีรบุรุษอย่างแบทแมน โดยคริสโตเฟอร์ โนแลน ได้กล่าวว่า แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังความเป็นแบทแมนในภาคนี้ก็คือ "บุคคลผู้หนึ่ง (บรูซ) ที่พยายามเผชิญหน้ากับความกลัวที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดในตัวเขา และพยายามที่จะกลายเป็นความกลัวเสียเอง" นอกจากนั้น แนวคิดเรื่องความกลัวจนถึงขีดสุดยังถูกทำให้เป็นรูปธรรมผ่านทางตัวละครตัว ร้ายอย่าง สแกร์โครว์ ผู้ที่ใช้สารพิษหลอนประสาทเพื่อทำให้เกิดภาพลวงตาที่น่ากลัว[39][40]
ฟิงเกอรอทยังกล่าวว่า การค้นหาตัวแทนบิดาของบรูซ เวย์น ที่เสียชีวิตไป ก็ถือเป็นอีกฐานคติหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยตัวละครที่เสมือนเป็นตัวแทนของบิดาของเขานั้น ได้แก่ อัลเฟรด เพนนีเวิร์ท, เฮนรี ดูคาร์ด และลูเซียส ฟอกซ์ ซึ่งในที่นี้ ฟิงเกอรอทได้ให้ความเห็นว่า อัลเฟรดเหมาะสมที่จะเป็นบิดาที่บรูซสามารถพึ่งพาอาศัยได้มากที่สุด ลูเซียสก็ถือเป็นหลักอันมั่นคงของชีวิตบรูซได้ เพราะความสุขุมนิ่งเงียบของเขา ส่วนเฮนรีนั้น หากเป็นบิดา ก็เป็นบิดาที่เข้มงวดและไร้ความเห็นใจ[39] ทางด้าน มาร์ก ฟิชเชอร์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยฟลอริดา ก็ได้กล่าวถึงฐานคติการหาตัวแทนของบิดาในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า มีสาเหตุมาจากความพยายามที่จะค้นหาความยุติธรรมขอ งบรูซเอง ที่ทำให้เขาต้องแสวงหาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากตัวแทนบิดาของเขา ซึ่งในที่นี้ ฟิชเชอร์ให้น้ำหนักตัวแทนบิดาของบรูซไปที่เฮนรี ดูคาร์ด โดยมีตัวเปรียบเทียบเป็นโทมัส เวย์น บิดาที่แท้จริงของบรูซเอง ส่วนอัลเฟรดนั้น ฟิชเชอร์ให้ความเห็นต่างจากฟิงเกอรอทว่า เป็นตัวละครที่เหมาะกับการเป็นตัวแทนของมารดาที่ให้ความรักต่อบรูซอย่างไม่ มีเงื่อนไขมากกว่า[41]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น